Friday, December 16, 2005

K1-2005 มล เลื่อนจาก Dec16,05 เป็น Nov29,05 รับ Nov30,05 sammon



K1-2005 มล เลื่อนจาก Dec16,05 เป็น Nov29,05 รับ Nov30,05 sammon

กลับมาแล้ว หลังจากที่ห่างหายไปนานเป็นเดือน เพราะแฟนบินมาหา เลยไม่ได้มาเล่าเรื่องการเตรียมตัวสัมภาษณ์ให้ได้ทราบกัน ขอรวบยอดเป็นวันนี้เลยก็แล้วกันนะคะ ต้องขออภัยก่อนล่วงหน้าเพราะอาจจะยาวเกินไป แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่รอสัมภาษณ์อยู่บ้างค่ะ

จากประสบการณ์ตัวเอง

ทางสถานฑูตโทรมาเลื่อนนัดจากเดิม 16 ธันวา มาเป็น 29 พฤศจิกายน ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ตรงนี้เค้าจะแจ้งให้เราทราบล่วงหน้าก่อนประมาณ 1 เดือน เพื่อเตรียมเอกสารได้ทัน หลายคนอาจจะมีประสบการณ์จากตรงนี้แล้ว

สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ในวันสัมภาษณ์ที่ต้องเตรียมไป จัดเป็น 3 เซ็ท อย่างที่พี่ ๆ ได้เคยเล่าให้ฟังกันไว้แล้ว ขออนุญาตทบทวนให้อีกครั้ง

เซ็ทที่ 1 ฟอร์มและเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา (ที่สถานฑูตแจ้งไว้)
1. DS 156
2. DS 156K
3. DS 157
4. passport
5. บัตรประชาชน+สำเนา 1 ชุด
6. ทะเบียนบ้าน+สำเนา 1 ฃุด
7. ใบเปลี่ยนชื่อ +สำเนา 1 ชุด (ถ้ามี) (แปลเป็นภาษาอังกฤษพร้อมรับรองการแปล)
8. ใบเปลี่ยนนามสกุล+สำเนา 1 ชุด (ถ้ามี) (แปลเป็นภาษาอังกฤษพร้อมรับรองการแปล)
9. ใบเกิด+สำเนา 1 ฃุด (แปลเป็นภาษาอังกฤษพร้อมรับรองการแปล)
10. ใบรับรองตำรวจ
11. ใบตรวจสุขภาพ+วัคซีนจากโรงพยาบาล (ฟิล์มเอ็กซ์เรย์เจ้าหน้าที่จะคืนให้)
12. ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมสัมภาษณ์จ่ายที่ไปรษณีย์ 4000 บาท
สำหรับฟอร์ม DS 230 part II ไม่ต้องใช้แล้วค่ะ

เซ็ตที่ 2 เอกสารทางการเงินของแฟน
1. ฟอร์ม I-134
2. W-2 หรือ Tax return 3 ปีย้อนหลัง (ของแฟนใช้ W-2 3 ปีย้อนหลังเผื่อไว้ดีกว่า เพราะไม่มั่นใจ เนื่องจากบางที่แจ้งว่าถ้าเป็น W-2 ใช้ 2 ปี )
3. Bankstatement (Notary public) (ไม่แน่ใจว่ากำหนดไว้กี่เดือนย้อนหลัง ของแฟนใช้ 1 ปี)
4. หนังสือรับรองการทำงานของบริษัทแฟน

เซ็ตที่ 3 เอกสารแสดงความสัมพันธ์ (ชุดนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่ามีเอกสารหรือสิ่งใด ๆ ที่จะนำไปแสดงต่อกงสุลวันสัมภาษณ์) โดยคร่าว ๆ คือ
1. อีเมล์ที่ติดต่อกัน (เลือกเฉพาะบางวันก็ได้ไม่จำเป็นต้องทั้งหมด)
2. การ์ด หรือ อีการ์ด
3. รูปถ่าย
4. ของขวัญ หรืออื่น ๆ

สถานฑูตจะคืนเอกสารเซ็ทนี้ทั้งหมดให้แก่เราค่ะ ไม่ต้องกังวลสำหรับคนที่ต้องการเก็บเป็นที่ระลึก
สำหรับตัวเอง เลือก อีเมล์ และแชทที่มี ประมาณ 5-6 วันไปแสดง อีการ์ดวันเกิด และรูปถ่ายที่ไปเที่ยวด้วยกันประมาณ 6 ใบ เท่านั้น

สำหรับการไปสัมภาษณ์
เวลานัดสัมภาษณ์ 7.00 น. หลังจากส่งแฟนที่สนามบินเรียบร้อยก็รีบตรงดิ่งกลับมาที่สถานฑูตทันที ถึงประมาณตี 5.45 น. มีคนมาเข้าคิวเรียบร้อยแล้วประมาณ 40 คนเห็นจะได้ ก็นั่ง ๆ ยืน ๆ รอไปพร้อมกับตรวจความเรียบร้อยของเอกสารอีกครั้ง เพราะเพิ่งจะทำเสร็จก่อนสัมภาษณ์แค่ 2 ชั่วโมง (มัวแต่เที่ยวเพลินเลยไม่ได้ทำอะไรเลย)
6.30 น. เจ้าหน้าที่เปิดประตูสถานฑูต เริ่มให้ทยอยเข้าไป สำหรับเราเองได้เข้าไปตอน 6.45 น เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสัมภาระที่เราถือไปเพื่อความปลอดภัย และจำให้ฝากเครื่องมือสื่อสารไว้ตรงหน้าประตู ตรงนี้แนะนำว่าอย่าให้บัตรประชาชนแก่เจ้าหน้าที่เด็ดขาดเพราะต้องใช้ตอนสัมภาษณ์ ถ้าใครมีใบขับขี่หรือเอกสารอื่น ๆ ที่ราชการออกให้ใช้แทนได้ แต่ถ้าใครไม่มีอย่างมล ให้ถ่ายเอกสารบัตรประชาชนไปเพิ่มอีกใบ และให้เจ้าหน้าที่ใว้แทนบัตรเรา ใช้ได้เหมือนกันเพราะทำมาแล้ววันนี้
พอผ่านไปได้ก็ตรงไปที่เคาน์เตอร์เบอร์ 5 เพื่อยื่นเอกสารที่เราเตรียมไปทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ เค้าจะแยกและตรวจสอบให้เราอีกครั้ง ไม่ต้องรอคิวค่ะ เพราะมีไม่กี่คน (ที่เห็นเยอะ ๆ นั่นวีซ่าประเภทอี่น ๆ) พอเจ้าหน้าที่เช็คเอกสารเรียบร้อยก็จะบอกให้เรานั่งรอเรียกสัมภาษณ์จากเจ้าหน้าที่ตรงนี้จะเป็นคิวตามที่เจ้าหน้าที่นัดเวลาไว้
ยิ่นเอกสารเสร็จประมาณ 7 โมง 5 นาที นั่งรอจนประมาณ 10 โมงเจ้าหน้าที่ก็เรียกชื่อไปสัมภาษณ์ โชคดีที่เราเป็นคิวแรก ไปถึงที่เคาน์เตอร์ พบกงสุลฝรั่งหน้าตาใจดีเป็นคนสัมภาษณ์ ไม่ต้องตกใจค่ะ สัมภาษณ์เป็นภาษาไทย กงสุลให้เราเซ็นชื่อในฟอร์ม และให้สแกนนิ้วมื่อ พอเสร็จก็เริ่มถามคำถาม
กงสุล : แฟนมาเมืองไทยกี่ครั้งแล้วครับ
มล : 2 ครั้งค่ะ ครั้งนี้ครั้งที่ 2 และเพิ่งกลับไปเมื่อเช้านี้
กงสุล : ขอบคุณครับ
กงสุล : พรุ่งนี้บ่าย 3 โมงคุณกลับมาที่นี่อีกครั้งนะครับ เพื่อมารับวีซ่าของคุณ

เพียงคำถามเดียวสำหรับการสัมภาษณ์ ใช้เวลาประมาณ 3 นาที ก็เรียบร้อยค่ะ ผิดคาดมาก ๆ ตอนแรกคิดว่าต้องตอบหลายคำถามและอาจต้องตอบเป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็ถือว่าโชคดี อาจเป็นเพราะเอกสารที่ครบถ้วนทำให้ง่ายมากขึ้น ลองใช้เป็นแนวทางสำหรับคนที่รอสัมภาษณ์อยู่ตอนนี้นะคะ

ขอให้โชคดีทุกคนค่ะ

มล :FL:
sammon wrote:
Posted on Fri Dec 02, 2005 2:14 am

กลับมาเล่าขั้นตอนสุดท้ายให้ฟังค่ะ ว่าวันไปรับจะต้องทำอย่างไรบ้าง

ในวันที่เราสัมภาษณ์และสัมภาษณ์ผ่านเรียบร้อยแล้ว กงสุลจะให้การ์ดสีขาวเรามา 1 ใบ ซึ่งในการ์ดนั้น จะเขียน ชื่อ-นามสกุลเราเอาไว้ พร้อมระบุวันที่ที่จะให้เรามารับวีซ่า ซึ่งเวลาจะเป็นเวลาที่เค้ากำหนดไว้ตายตัวคือบ่าย 3 โมง

เที่ยวนี้เราไปสถานฑูตแบบไม่ต้องรีบเร่ง ให้ใกล้ ๆ เวลาบ่าย 3 ก็ได้ค่ะจะได้ไม่ต้องรอนาน เข้าไปก็ให้ไปรอในห้องด้านในที่เราไปตอนสัมภาษณ์นั่นแหละค่ะ พอถึงเวลาเจ้าหน้าที่เค้าจะประกาศเรียกให้ไปนั่งในห้องเล็ก ๆ รวมกันสำหรับคนที่มีนัดรับวีซ่า

จากนั้นเจ้าหน้าที่เค้าก็จะอธิบายให้เราฟังทำความเข้าใจเกี่ยวกับวีซ่าที่เราได้ และเอกสารที่เราต้องถือไปส่งให้ทาง immigrant ทาง usa เมื่อเราไปถึงที่นั่น ทุกอย่างที่เจ้าหน้าที่บอกเรา นั่นคือสิ่งที่เราต้องปฏิบัติทั้งหมด ตั้งใจฟังกันให้ดี นะคะ จะได้ไม่พลาด
ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่ะ

ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ
มล









No comments: