Wednesday, January 13, 2010

CR2-2010 ปุ๊ก(เอ๋ย) Jan08 รับ Jan13,10 (US citizen applied) 003

เอ้าเร่เข้ามาค่ะท่านผู้ชม ประสบการณ์ร้อน แบบว่ายังอุ่นๆเลย
เริ่มต้นที่วันนี้ตี4ครึ่ง ปลุกลิงให้ตื่นแต่งตัว หลอกมันว่าจะพาไปเที่ยวเดี๋ยวบ่ายๆกลับบ้าน
เธอก็จัดแจงแปลงกายเป็นสาวน้อยน่ารักในชุดสีชมพูทันที แม่มันก็เสื้อสีชมพู
วันนี้ใครไปสัมภาษณ์เห็นไอ้แม่ลูกคู่สีชมพูนั่นแหล่ะใช่เลย ฮ่ะๆ


6.30 น.ไปถึงหน้าประตูสถานฑูต ยืนรอคร้าบพี่น้อง เดี๋ยวนี้ทางเข้าไฮโซน่าดู
ประตูเป็นกระจก (แต่ก่อนสังกะสีดีๆนี่เอง ฮ่ะๆ) รอแถวค่ะ มีไลน์กั้นเรียบร้อยไม่ให้แซงกัน


6.45 น.โดยประมาณ น้องเสื้อม่วงอ่อนเดินออกมาตรวจแถว เช็ครายชื่อ เดินเข้าทีละ 3 คน
เอาของไปฝาก โทรศัพท์ อุปกรณ์อิเลกโทรนิค ฝากให้หมด พร้อมบัตรประจำตัวที่ไม่ใช่บัตรประชาชน


6.50 น. ทะลุเข้าด้านใน งานนี้ไม่ต้องเดินไกลอ้อมสระเหมือนเมื่อก่อน เค้าตัดทางเดินปรู๊ดเดียวถึง

6.55 น. ไปเหล่ดูเคาน์เตอร์ 5 ไม่มีเจ้าหน้าที่สักคน ลูกสาวอิฉันร้องจะเข้าห้องนำ เอ้า....ลากกันไป

7.10 น. หลังจากเสร็จกิจในห้องน้ำ มาเข้าแถวยื่นเอกสาร ออกมาเห็นคนต่อคิวเพียบ ไปต่อกะเค้าด้วย
เอกสารที่ยื่นมีแค่เอกสารความสัมพันธ์ เป็นรูปแบบรวมมิตรอัด 8x10 ใบเดียว(แต่หลายรูปรวมๆกัน)
ใบปค.14ที่ไปขอมาใหม่ (อันนี้แหล่ะปัญหาที่ทำให้เคือง เดี๋ยวเล่าให้ฟัง) ผลตรวจร่างกาย
เค้าขอกรีนการ์ดไปด้วย ก็เอาให้ไป แล้วก็พาสปอร์ตเอ๋ย เอกสารอื่นๆยื่นไปหมดแล้ว


7.30 น. ยื่นเอกสารเสร็จ นั่งรอ น้องเอ๋ยทำพิษ ปวดปุ๊บอีกแล้ว ลำบากแม่มันหล่ะทีนี้ พาเข้าห้องน้ำ

8.00 น. หลังจากปล้ำกันอยู่นาน คุณหญิงแหกปากอยากกลับบ้านซะงั้น ไม่เอาแล้ววีซ่า
เพราะว่าเธอปวดท้อง (ปุ๊บไม่ออก) จะกลับบ้านท่าเดียว ก้เลยต้องลากกันเข้าห้องน้ำอีกรอบ


ระหว่างนี้เจอพี่ใจดีคนนึง มาสัมภาษณ์วีซ่าทำงานและท่องเที่ยว เค้าบอกเข้าเลยค่ะ เดี๋ยวบอกเจ้าหน้าที่ให้
น่ารักที่สุด ไม่ได้ถามชื่อ แต่ขอบคุณมา ณ ทีนี้นะคะ แล้วก็แยกตัวพาเอ๋ยเข้าห้องน้ำ เฮ้อ.....กรรม


8.30 น. โดยประมาณ เจ้าหน้าที่เริ่มเรียกไปช่อง 13 แต่เราไม่ได้เรียก นั่งรอ

9.00 น. "เด็กหญิงอริศราหน้าแมว เคาน์เตอร์ 6 ค่ะ" ก็เดินไป ลากลิงไปด้วย

คุณแหม่มคนสวยก็ยื่นกระดาษมาให้ปุ๊กเซ็นต์ชื่อแทน ก็เขียนชื่อเอ๋ยแล้วก็ชื่อตัวเอง
หลังจากนั้นก็ให้ยกมือขวาสาบานว่าจะพูดความจริง จัดไปตอบเยสค่ะ

เริ่มคำถามแรก "คุณไปอยู่อเมริกามากี่ปี" อ้าว....ถามแม่ซะงั้นไม่ถามลูก
ตอบไป "เกือบปีค่ะ" ก็อยุ่แบบไปๆกลับๆอ่ะ ก็เกือบปี ไม่ครบดี

หลังจากนั้นคุณแหม่มไม่ถามอะไรเลย เริ่มร่ายยาวเรื่องใบปกครองบุตร
บอกว่าใบปค.14ที่เราขอมาใช้ไม่ได้ "ไม่รับจากDistrictนะคะ" ฮ่วย....เอาแล้วตรู งานเข้า
อิฉันด้วยวิญญาณลูกอีช่างเถียงเริ่มร่ายเลย "เขียนอีเมล์มาถาม เจ้าหน้าที่คุณก็ไม่ตอบ 2 อาทิตย์กว่า
ก็เลยก๊อปจากตัวอย่างของสถานฑูตไปขอจากอำเภอ ถ้าเอกสารนี้ใช้ไม่ได้ทำไมถึงเอาไปทำพาสปอร์ตได้หล่ะคะ"


คุณแหม่มคนสวยอึ้งไปพักนึง ไม่คิดว่านังนี่จะเถียง ช่างกล้า.....พูดไม่มีเว้นวรรคเลย
คุณแหม่มเลยบอก"ขออธิบายได้ไหม๊คะ" "เอกสารนี้ใช้ไม่ได้ ต้องให้พ่อเด็กมาเซ็นเท่านั้น"
ควันออกหูเลยทีนี้ หน้ามืด หูอื้อทันที "เป็น Single Mom ค่ะ ไม่ได้ติดต่อพ่อเด็กตั้งแต่ท้องได้ 5 เดือน
จนถึงตอนนี้ดูเอาค่ะ 3 ขวบกว่าแล้ว" วัดความสูงลุกสาวให้ดูด้วยว่าโตเป็นสาวแล้วนะยะ


คุณแหม่มอึ้งไปอีกรอบ แต่ยังยืนยัน "ต้องให้พ่อเด็กมาเซ็นค่ะ หรือไม่ต้องลงประกาศตามหาในหนังสือพิมพ์
แจ้งว่าเป็นบุคคลสูญหาย มีจดหมายพิสูจน์ว่าเราเคยตามหาจริง บลาๆๆๆ"
แม่ลิงเริ่มหูอื้อ อะไรจะขนาดนั้นฟระ ต้องตามหากันเลย เสียตังค์ประกาศหาพ่อมันอีก
ต้องเอาลูกตัวเองไปประจานในที่สาธารณะว่าหนูเป็นลูกไม่มีพ่อนะคะ แบบนี้ยอมบ่ได้
"ขออนุญาติคุยกับเจ้าหน้าที่คนไทยได้ไหม๊คะ" ได้ค่ะ คุณแหม่มจัดให้ 
ระหว่างนี้เธอยุกยิกอยู่ที่คอมพิวเตอร์ ปริ๊นซ์ใบ 221(G)ให้แล้ว แต่นังนี่ยังเถียงไม่เลิก ฮ่ะๆ


เจ้าหน้าที่คนไทยเดินมา พูดประโยคเดียวกันเด๊ะๆ จะพูดทำไมคะพี่ค๊า....น้องทราบแล้ว
ก็เลยบอกไปว่า"ดิฉันติดต่อทั้งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางแล้ว เค้าออกเอกสารนี้ให้ไม่ได้
(นังแม่ลิงควักอีเมล์ที่เขียนไปแจ้งสถานฑูตมาโชว์ว่าฉันแจ้งแล้วนะยะหล่อน)
แล้วก็เขียนมาถามอีก พวกคุณก็ไม่ตอบอีเมล์ ตอนนี้จะให้ไปตามหาพ่อเด็ก งั้นดิฉันขอถามหน่อย
ทำไมตอนยื่น K1 Visa ใบปค.14ตัวนั้นถึงใช้ได้ คุณไม่พอใจจะเอาแบบใหม่ดิฉันก็ไปขอให้
(ควักใบใหม่มาโชว์อีกรอบกลัวไม่เห็น) ตอนนี้จะให้ตามหาพ่อเด็กที่ไม่ได้ติดต่อกันเลย 4 ปี
แถมไม่ทราบว่าจะไปหาที่ไหน ไม่ทราบว่าตกลงคุณจะเอาเอกสารอะไรกันแน่คะ"


พี่คนสวยอึ้งกิมกี่ ไม่คิดว่าของเค้าแรงจริงๆขนาดนี้ (น่าสงสาร ขอโทษนะคะพี่ หนูเดือดไปหน่อย)
"คุณแหม่มจะเอาใบยินยอมจากพ่อเด็กค่ะ ถ้าคุณติดต่อพ่อเด็กไม่ได้ต้องมีหลักฐาน
พวกประกาศหนังสือพิมพ์และจดหมายมาแสดงว่าเคยตามหาจริง หรือหนังสือแจ้งความค่ะ"
โอ้แม่เจ้า......ยังยืนยันกระต่ายขาเดียวเหนียวแน่นมาก แถมไม่ช่วยอธิบายให้คุณแหม่มเข้าใจอีกต่างหาก
(ก็ไม่ได้ว่าหรอกนะ แต่แหม....ใจดำกะคนไทยด้วยกันไปหน่อยรึเปล่าคะพี่)


แล้วคุณแหม่มก็ยื่นตัวอย่างให้ดู พร้อมกับหนังสือมรณะ 221(G) แล้วชีก็เดินจากไปแบบไร้เยื่อไย
(คนใจร้าย ไม่อธิบายยังเดินหนีอีก) พี่คนสวยยังย้ำ "เอาเอกสารยื่นเพิ่มได้จันทร์กับพุธบ่ายโมงนะคะ"

จัดการขอบคุณค่ะแล้วเดินสะบัดตูดออกไปทันทีด้วยความเคือง (ขอโทษที่ไม่ได้ทักใครเลยนะคะ ยังเคืองอยู่)
เดินออกมาหน้ามืด หูอื้อ ตาลาย น้ำตาจะไหลแบบบอกไม่ถูก นี่ถ้ามันบกพร่องประเภทอื่นจะไม่เครียดเลย
แต่นี่เอกสารก็ครบทุกอย่าง ภาษีก็ครบ ความสัมพันธ์เยี่ยม ทุกอย่างดีหมด
แต่ผิดอย่างเดียว ผิดที่เป็น Single Mom ที่หยิ่งไปหน่อย ไม่ติดต่อพ่อเด็ก
ไม่รู้ว่าพ่อเด็กมันหายหัวไปไหน ไม่รู้จะไปตามหามันได้ที่ไหน เลยทำให้ต้องได้ 221(G) ในวันนี้


ออกมาถึงประตูหน้า หมดเวลาเสียใจ จัดการดำเนินการทันที โทรจิกๆๆๆๆๆๆ กัดๆๆๆๆๆๆๆ
ตามหามันไปหมดตั้งแต่ผู้กำกับยันรองสวป. โรงพักทุกที่ๆพ่อมันทำงานไม่ได้อยู่เป็นสุขเลยทีเดียว
นังนี่โทรกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ วันนี้ค่าโทรพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบประวัติการณ์ โทรจิกกัด อ้อนออด อ้อนวอน
ขู่เข็ญ บังคับ กว่าจะได้มาซึ่งข้อมูลว่าตอนนี้พ่อเธออยู่ไหน 
(เลือดตาแทบกระเด็น ด้วยความโกรธบวกความเครียด)

จัดการโทรจิกทันที ได้ทราบว่าพ่อเธอจะเข้าเวร สวป.วันนี้ 4 โมงเย็น (ตอนนั้น 10.30น.)
ไม่ทันๆ ไม่มีทางทัน จัดการนั่งรถไปสถานีตำรวจต้นเหตุทันที (ในสายยังออดอ้อนรองผู้กำกับต่อไป)
พอไปถึงก้เล่นวิทยายุทธขั้นสูง จนได้เจอตัวพ่อเธอ โอ้แม่เจ้า.....วันนรกมาถึงแล้ว
อย่ามาทวงลูกฉันนะ อย่าด่าฉันด้วย (แอบภาวนาในใจ) เริ่มเจรจาทันทีเรื่องลายเซ็นต์

ผิดคาดแหะ พี่แกร่วมมือแต่โดยดี แถมมีการบอกว่าจะคุยกับผู้ใหญ่ให้ (แหม....ร่วมมือเกินเหตุ)
ก็เลยจัดการลากกันไป ตอนแรกว่าจะให้ไปเจอที่สถานฑูต เข้าไปเซ็นต่อหน้าเจ้าหน้าที่กงสุล
แต่เค้าดันไม่ให้เข้า นังแม่ลิงก็เลยมีอันต้องนั่งรถกลับมาอำเภอใกล้โรงพัก หัวก็คิดแผนสำรองทันที
เลยจัดการไปถามอำเภอ เซ็นต่อหน้าให้เจ้าหน้าที่รับรองได้ไหม๊ เจ้าหน้าที่บอกต้องมีถิ่นฐานที่นี่เท่านั้น
แอบเซ็ง.....อีกรอบ อะไรกันหนักหนาเนี่ย พ่อเธอมาจากนครสวรรค์ 
นี่ฉันต้องนั่งรถไปเหรอ จะทันเหรอฟระเนี่ย เลยโทรไปหาพ่อมัน(ด้วยความจำเป็น)
ถามว่าทะเบียบ้านอยู่ที่ไหน พี่แกบอกย้ายมาที่อำเภอนี้แล้ว
กรี๊ด......ดีใจปานถูกหวยรางวัลที่ 1 รีบบอกให้มาเซ็นที่อำเภอทันที 


หลังจากดำเนินการเสร็จ ได้เอกสารมาครอบครอง แอบนึกในใจ 
นี่เห็นจะเป็นอานิสงค์จากการสวดมนต์แผ่เมตตาที่ปุ๊กและเอ๋ยร่วมกันทำ(แบบลุ่มๆดอนๆ)ทุกวัน
ทำให้อุปสรรคที่ควรจะเยอะแยะกลับง่ายกว่าที่คิด วันเดียวได้เอกสารที่ต้องการมาครอง
วันจันทร์นี้พร้อมรบ เอ๊ย....ไม่ใช่ พร้อมส่งเอกสารเพิ่ม แล้วดูสิคราวนี้พี่ Em จะมาไม้ไหนอีก
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะพี่ๆน้องๆ แม่ลิงและลุกลิงยังต้องผจญภัยอีกค่ะ


-----------------------------------------------------

เข้ามาอัพเดตการยื่นเอกสารเพิ่ม วันนี้เดินทางไปถึงสถานฑูตเวลา 12.00 น.
ก็กะว่ามันติดเที่ยงพอดีเลย เราก็เลยนิ่งนอนใจไปเดินเล่น กลับมาอีกที 12.30 น.
เจอพี่ๆเพื่อนๆร่วมชะตากรรมอีกหลายคน (ลุงเติ้ลก็ไปกะเค้าด้วย)
พากันเดินไปเข้าแถว รับบัตรคิว แล้วก็รอน้องเสื้อม่วงมาเปิดประตูค่ะ
พอเค้าให้เดินผ่านเข้ามาคิวที่ได้ก็เรียกส่งเอกสารที่ช่อง 4 พอดีเลย ก็ลากลิงเข้าไป 
เอาเอกสารส่งเจ้าหน้าที่ (มีการแอบงงเล็กน้อย เพราะพ่อเธอเปลี่ยนชื่อนามสกุลและย้ายบ้าน)
แล้วก็ไปนั่งรอชะตากรรมตัวเอง ขอบอกว่าไม่มั่นใจเลยว่าคุณแหม่มจะเฮี้ยนอยากได้เอกสารอื่นๆอีกรึเปล่า
ก็นั่งรอไปปวดกบาลไป เพราะเอ๋ยมันซนมั่กๆ (ไม่เชื่อไปถามลุงเติ้ลได้ ซนจนปวดหัวเลยอ่ะ)
ตั้งแต่เวลา 13.00 น. จนถึงเวลาบ่ายสามกว่าๆก็มีเจ้าหน้าที่สาว(อีกคน)มาเรียกชื่อน้องเอ๋ย
แล้วเราก็เดินเข้าไปเอาใบนัดรับวีซ่า ไม่มีการสัมภาษณ์เพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น
แอบสงสัยทำไมคุณแหม่มเรียกคนอื่นสัมภาษณ์ไม่เรียกเรา เอ๊ะ.....หรือว่ากลัวเรากัด ฮ่ะๆ
แต่ก็ดีแล้ว ไม่งั้นถ้าเธอเรียกเดี๋ยวเรื่องยาว เพราะตั้งใจว่าจะถามเลยว่าทำไมขอเอกสารขัดแย้งกันเอง
(ยังแค้นฝังหุ่นไม่หายนะเนี่ยเรา นิสัยไม่ดีมากๆ ฮ่ะๆ) แต่ดันไม่เรียกก็เลยอดไป
แต่ยังไงก็ดีใจไม่ต้องเลื่อนตั๋วแล้ว ได้เดินทางตามกำหนดค่ะวันที่ 16 Jan 10
สาวๆซานดิเอโก้และใกล้เคียงเตรียมตัวปาร์ตี้รับลูกลิงนะคะ เดี๋ยวสถานที่จะแจ้งอีกทีค่ะ

สุดท้ายนี้ขอบคุณน้องแอน , พี่ติ๊ก........ฝ่ายประสบการณ์และเอกสาร ขอบคุณมากค่า
พี่กุ้ง......ตัวอย่างของเจ๊ด้วย ไม่นึกว่าจะได้ใช้ สุดท้ายก็ได้ไปขอจริงๆ ขอบคุณค่า
เจ๊นัท , อ้อม , ปุ้ม , หมู่เฮาชาวซานดิเอโก้.......กำลังใจหนาแน่นปึ๊กๆ ขอบคุณค่า
พี่ต้า , ลุงเติ้ล......เพื่อนร่วมทางที่สู้ไม่มีถอย เราอยู่ข้างกันเสมอ สู้ๆนะ
และกำลังใจสำคัญจากเพื่อนๆพี่ๆในบ้านยูเอสทุกคน ขอบคุณมากมายอีกครั้งค่ะ
ไม่มีบ้านหลังนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปปรับทุกข์กับใคร เพราะว่าเวลาเครียดก็ได้พวกเรานี่แหล่ะช่วยเหลือ

สุดท้ายนี้ขอปิดประสบการณ์กรีนการ์ดของเอ๋ยแต่เพียงเท่านี้ค่ะ
แต่สำหรับใครที่อยากทำเรื่องแบบนี้เหมือนกันปุ๊กยินดีรับใช้นะคะ
หน้าไมค์หลังไมค์ได้หมด ยินดีรับใช้ตลอด 24 ชม.ค่ะ
ร๊าก......ทุกคนเหมือนเดิมค่า

CR2-2010 ปุ๊ก(เอ๋ย) Jan08 รับ Jan13,10 (US citizen applied) 002


มาแล้วจ้า สดๆร้อนๆเมื่อสัก 2 ชม.ที่ผ่านมานี่เองค่ะ ทาง NVC ส่ง DS3032 form , AOS Fee Bill มาให้
ขั้นตอนนี้คือหลังจากที่เคสเราอนุมัติแล้ว ทาง USCIS จะส่งเคสเราไปที่ NVC 
หลังจากนั้น NVC ทำการออกหมายเลขเคสมาให้ ประเทศไทยก็จะขึ้นต้นด้วย BNKxxxxxxxxxx
ทีนี้ก็เล่นเกมส์รอกันค่ะ ใครร้อนใจก็จัดการโทรไปหาเจ้าหน้าที่ได้ แต่ปุ๊กคิดว่าเรายังมีเวลาเลยไม่รีบรอจดหมายเอา
(เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องโทรไปขอหมายเลข IIN เพื่อมาล็อกอินจ่ายตังค์ เพราะเค้าส่งมาในจดหมายแล้ว)


วันนี้ทาง NVC เมล์มาให้สองฉบับเลยค่ะ อันนึงของพี่พอลคือ AOS Fee Bill ส่วนอีกอันของเอ๋ยเป็น DS3032 Form


ของพี่พอลมีหน้าที่จ่ายตังค์ $70 ก็จัดการจ่ายออนไลน์กันไป ใช้หมายเลข IIN ที่เจ้าหน้าที่เค้าให้มาล็อกอินเข้าไปจ่าย 
รออีกสองวันเข้าไปปริ๊นซ์ใบปะหน้ามาเพื่อรอส่งกลับพร้อม I-864 (ก็คือเอกสาร Support นั่นเอง)


ส่วนของน้องเอ๋ยคือ DS3032 Form เป็นฟอร์มเลือกคนรับจดหมายต่างๆค่ะ ปุ๊กใส่ชื่อพี่พอลไป แล้วจัดการเซ็นแทนเธอแล้วส่งเลยทางอีเมล์
(พรุ่งนี้เช้าให้พี่พอลส่ง Fedexต้นฉบับไปอีก กันเหนียว) เนื่องจากเธออายุเพิ่ง 3 ขวบ ยังเขียนหนังสือไม่ได้ 
แม่มันเลยจัดการซ๊า.....(ถามเจ้าหน้าที่แล้ว เค้าว่าได้ค่ะไม่มีปัญหา)


------------------------------------------------------------------------------



อัพเดตค่ะ ตอนนี้( 2 วันนับจากจ่ายตังค์ ) หน้าจอโชว์ Paid ในส่วนของ AOS Fee Bill เป็นที่เรียบร้อย
เราก็ทำการปริ๊นซ์รายละเอียดหน้านั้นออกมา เพื่อจะใช้เป็นใบปะหน้าของ I-864 ส่งให้ NVC
ปุ๊กกับพี่พอลเตรียมเอกสารรอแล้วค่ะ พรุ่งนี้พร้อมส่งตรงเข้า NVC เพื่อดำเนินการต่อ ตอนนี้ก็รอแค่ DS3032 เข้าระบบ
แล้วก็จะได้ทำการจ่ายตังค์ $400 เป็นค่า IV Bill ต่อไป สู้ๆ......


--------------------------------------------------------------------------------------------


4 Nov 09 
วันนี้มีเมล์มาที่เมล์ของปุ๊กและพี่พอล แจ้งเรื่องการจ่ายค่าธรรมเนียม $400 ที่เรารอคอย จริงๆตัวบิลออกตั้งแต่เมื่อวานนี้
แต่เพื่อความชัวร์ของเราเลยรอเมล์ก่อน ดังนั้นเมื่อเมล์มาก็เข้าไปล็อกอินหน้าเดิม จ่ายเงิน ตอนนี้รอหน้าจอโชว์ Paid แล้วก็ทำการปริ๊นซ์บาร์โค้ดส่งพร้อมฟอร์ม DS230


----------------------------------------------------------------

9 NOV 09

วันนี้เช็ค IV Fee Bill หน้าจอขึ้น Paid แล้วก็จัดารเตรียมเอกสารส่งเลยค่ะ(จริงๆเตรียมก่อนแล้วหล่ะ รอแค่บาร์โค้ด)
เอกสารส่วนของ DS230 มีดังนี้นะคะ
1. Barcode Cover Sheet ปริ๊นซ์ออกมาจากเวบของ NVC 
2. Cover Letter อันนี้ก๊อปมาจาก VJ
3. รูปถ่ายติดพาสปอร์ตของเอ๋ย ขนาด 2X2 จำนวน 2 ใบ
4. DS 230 Part I&II (เซ็นฟอร์มเฉพาะส่วนที่ I ที่เหลือรอเซ็นตอนสัมภาษณ์ค่ะ)
5. Copy of น้องเอ๋ย Passport
6. ใบเกิดตัวจริงของเอ๋ย
7. ปค.14 ตัวจริง
8. Copy of พี่พอล Passport
9. Certified Copy of ทะเบียนสมรสปุ๊กกับพี่พอล

เอกสารอื่นๆส่งไปหมดตั้งแต่ตอนแรกแล้วค่ะ ตอนนี้รอแค่เค้าเช็คเอกสารเรียบร้อยก็รอเคส Complete
ไว้จะมาส่งข่าวเมื่อได้วันสัมภาษณ์นะคะ[/color

---------------------------------------------------------------


มาแล้วค่ะประสบการณ์ตรวจร่างกายลูกลิง
เริ่มกันที่ลงทะเบียน สังเกตอาการค่ะ ยังร่าเริงอยู่เพราะยังไม่เจอคุณหมอ

Image

เอกสารที่ใฃ้ลงทะเบียนมีดังนี้ค่ะ
1.พาสปอร์ตน้องเอ๋ย
2.รูปถ่าย 1.5-2 นิ้ว 1 รูป
3.สมุดวัคซีนที่ฉีดมาตั้งแต่แรกเกิด
เอกสารที่ใช้มีแค่นั้น ปุ๊กจัดการเซ็นชื่อแทนเลยเพราะว่าเอ๋ยเขียนหนังสือยังไม่ได้
แล้วก็ขึ้นมานั่งรอคุณหมอวัชรพงษ์ที่หน้าเคาน์เตอร์ C ค่ะ เพลิดเพลินมาก สังเกต
มันยึดเอาโทรศัพท์แม่ไปดูการ์ตูนเฉยเลย ไอ้เด็กคนนี้นี่

Image

หลังจากนั้นก็เข้าไปตรวจ น้องเอ๋ยเพิ่งจะสามขวบจึงไม่ต้องผ่านกระบวนการเอ็กซเรย์และเจาะเลือด
เจ้าเอ๋ยได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว เข็มสุดท้ายคุณหมอประจำที่โรงพยาบาลนัดเดือนหน้า
วันนี้คุณหมอวัชรพงษ์เลยจัดการเซ็นชื่อและลอกรายละเอียดวัคซีนลงในฟอร์มอย่างเดียว
หมดค่าเซ็นชื่อและวัดความดันไปทั้งหมด 1050 บาทค่ะ 
หลังจากจบการตรวจก็ได้ซองสีน้ำตาลมาซองเดียว ไม่มีฟิล์มเอ็กซเรย์ สบายไป ไม่ต้องหอบ
เอาใส่กระเป๋าแล้วก็พากันไปให้รางวัลคนเก่ง ฮ่ะๆ หมดตัวกับค่าของเล่น McDonald's เนี่ยแหล่ะ

Image

แล้วก็เดินทางกลับบ้าน พากันนั่งรถไฟฟ้าจากสถานีนานามาลงที่อนุสาวรีย์

Image

แล้วก็มาเดินช้อปปิ้งกันสองคนแม่ลูกที่ฟิวเจอร์ค่ะ เป็นอันจบประสบการณ์ตรวจร่างกาย สั้นง่ายและดีจริงๆ อิอิ

CR2-2010 ปุ๊ก(เอ๋ย) Jan08 รับ Jan13,10 (US citizen applied) 001


CR2-2010 ปุ๊ก(เอ๋ย) Jan08 รับ Jan13,10 (US citizen applied) 

สวัสดีครับพี่น้อง มาแล้วๆ ไหนๆก็จะส่งเรื่องให้เอ๋ยแล้ว ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าอาจจะยังมีเพื่อนๆอีกหลายคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบปุ๊ก
วันนี้เลยจะเอาขั้นตอนการส่งเอกสารเพื่อยื่นขอกรีนการ์ดให้เจ้าเอ๋ยมาฝาก ปุ๊กเดินทางเข้าอเมริกาด้วยวีซ่าคู่หมั้นนะคะ
ตอนนี้แต่งงานแล้วและได้กรีนการ์ดเป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปเป็นการพาลิงมาโกอินเตอร์ มีวิธีง่ายๆดังนี้


ขั้นตอนที่ 1
เตรียมเอกสารจำเป็นที่เป็นภาษาไทยทั้งหมด ทำการแปลและรับรองเอกสาร
เนื่องจากว่าปุ๊กงก เอ๊ย....ไม่ใช่ ปุ๊กไม่ได้อยู่เมืองไทยอ่ะนะคะ ก็เลยอาศัยความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านเล็กน้อย
ขอบคุณน้องแอน.....สำหรับต้นฉบับตัวแปลทะเบียนบ้าน และข้อมูลต่างๆจ้า
ขอบคุณน้องอ้อม.....สำหรับการตรวจทาน แก้ไขฉบับแปลเฟอะฟะของพี่ปุ๊ก
ขอบคุณเจ๊กุ้ง....สำหรับตัวอย่างใบเกิดและตัวแปลของเจ้ากันต์
ขอบคุณพี่ติ๊ก.....สำหรับข้อมูลดีๆและที่พึ่งในการหารายละเอียดเรื่องกรีนการ์ด


เอกสารที่แปลมีดังนี้ค่ะ
1. สูติบัตรน้องเอ๋ย 
2. ทะเบียนบ้านปุ๊กและน้องเอ๋ย
3. ใบปค.14 (ใช้เฉพาะใบสรุปที่เค้าอ้างอิงกฎหมายมาตราที่ 1546)


**เสริมนิดนึงค่ะ เนื่องจากแต่ละสำนักงานเขตเขียนไม่เหมือนกัน การแปลตัวนี้อาจจะไม่เหมือนกันนะคะ**
เพื่อนๆพี่ๆคนไหนที่จะไปขอเอกสาร ปค.14 ที่อำเภอ ปุ๊กแนะนำให้ก๊อปปี้ตัวอย่างจาที่สถานฑูตให้มา หรือว่าในเวบกงสุลไปด้วย
เค้าจะได้พิมพ์ออกมาเหมือนกัน เวลาเอามาแปลจะได้ไม่งง สับสน และกินเวลานานเหมือนปุ๊กค่ะ
และสำหรับคนที่เคยมีการเปลี่ยนชื่อ แนะนำให้แปลด้วยนะคะ ว่าง่ายๆเอกสารอะไรที่เกี่ยวพันกะเราแปลให้หมดเลยค่ะ


เพิ่มเติมเรื่องเอกสารการปกครองบุตร แม้ว่าเราจะขอมาแล้วก็จริงแต่เดี๋ยวนี้สถานฑูตเรื่องมากค่ะ
ใครที่สามารถติดต่อพ่อเด็กได้ กรุณาไปทำเอกสารเพิ่มที่เรียกว่า "ใบยินยอมออกนอกประเทศ" มากันไว้ก่อน
เอกสารตัวนี้ต้องมีข้อความที่ว่า"ข้าพเจ้ายินยอมให้บุตรเดินทางย้ายถิ่นฐานไปอยู่สหรัฐอเมริกาเป็นการถาวรโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น"
ระบุไว้ด้วย แต่ถ้าหากหาเอกสารอันนี้ไม่ได้เนื่องจากหาพ่อเด็กไม่เจอ จำเป็นต้องลงประกาศหนังสือพิมพ์ตามหา แจ้งคนหาย ฯลฯ
เพื่อแสดงว่าเราได้มีการใช้ความพยายามติดต่อพ่อเด็กแล้วจริงๆ แล้วเก็บหลักฐานเหล่านั้นมาใช้แทนใบยินยอมออกนอกประเทศได้ค่ะ
ทำไว้แต่เนิ่นๆ เพราะเวลาที่เราไปสัมภาษณ์จะได้ไม่ติดเรื่องเอกสารตัวนี้นะคะ

อีกกรณีนึงคือคนที่เคยแต่งงานจดทะเบียน แม้ว่าจะมีสลักหลังจากใบหย่าแต่เพื่อความชัวร์
แนะนำให้ไปยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อขออำนาจศาลสั่งในการเป็นผู้ปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวนะคะ
ระยะเวลาเท่าที่สอบถามมาประมาณ 3 - 6 เดือน อันนี้แล้วแต่ว่าท่านว่างมาพิจารณาให้เราเมื่อไหร่
แต่ถ้าเพิ่งจะเริ่มยื่นเรื่องก็อยากให้ไปทำเผื่อเอาไว้ เพราะจะได้ไม่ต้องไปตามหาพ่อเด็ก
เพราะสถานฑูตเคยตอบเมล์ปุ๊กมาว่าถ้าไม่มีใบยินยอมจากพ่อเด็กก็ต้องมีใบคำสั่งจากศาล สามารถใช้แทนกันได้ค่ะ


ขั้นตอนที่ 2
จัดการกรอกเอกสารและจัดเรียงตามนี้ค่ะ
1. I-130
2. G-325A ของพี่พอลและของน้องเอ๋ย
 (ที่ให้พี่พอลยื่นให้เพราะว่ามันจะเร็วกว่าค่ะ ถ้าปุ๊กยื่นเองคงจะสามชาติได้ ฮ่ะๆ)
3. Copyใบสัญชาติ / Copy of Passport พี่พอล (พี่พอลไม่ได้เกิดที่นี่ค่ะ แต่ถ้าแฟนใครเกิดที่นี่แนบใบเกิดนะคะ)
4. Copy of Passport ปุ๊กและน้องเอ๋ย
5. Copy & Translation of ทะเบียนบ้านปุ๊กและน้องเอ๋ย
 
(เจ้าแอนบอกมาว่าถ้าเค้ามีอันนี้เคสจะไว เพราะว่าไม่ต้องเสียเวลาไปพิสูจน์ว่าเรากะลูกอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยจริง)
6. Copy & Translation of สูติบัตรน้องเอ๋ย
7. Copy & Translation of ปค.14
 
(เอกสารตัวนี้สำคัญ ถ้าใครได้ลูกจากการหย่า แปลตรงที่เค้าบอกว่ายกบุตรให้อยู่ในความปกครองของมารดาอ่ะค่ะ)
8. Married Cer.
เอาตัวก๊อปปี้ส่งไปนะคะ
9. Proof of Relationship ปุ๊กเอารูปที่เราถ่ายเป็นครอบครัวและรูปที่พี่พอลถ่ายกะเอ๋ยจัดใส่กระดาษเอ4แล้วปริ๊นซ์
(อันนี้ไม่รู้เค้าใส่ไปกันป่าว แต่เราอยากจะโชว์เค้าไงว่าแฟนเรากะลูกเรารักกันมาก ถ้าเคสช้าเนี่ยพรากพ่อแม่ลูก บาปนะเฟ้ย...ฮ่ะๆ)
10. Copy of Greencard ของปุ๊กค่ะ เอาไปเผื่อกันเหนียว เค้าจะได้ไม่ขอเอกสารเพิ่ม ฮ่ะๆ

อย่าลืมแนบเช็คค่าธรรมเนียมไปด้วย $355 นะคะ เคล็ดลับคือใช้เช็คของบัญชีร่วมที่มีชื่อเราและแฟน
จะได้เป็นการย้ำให้เห็นแน่นๆเลยว่าเราเป็นครอบครัวจริงๆ ไม่ได้แอบอ้าง

หลังจากนั้นก็เตรียมตัวส่งเอกสารได้เลยค่ะ


-------------------------------------------------------------------------


ขออนุญาตแปะ Timeline เลยนะคะ เดี๋ยวจะมาอัพเรื่อยๆระหว่างขั้นตอน

I-130 For Aery
15 Jul 09 = Send I-130 to Chicaco, IL
17 Jul 09 = Package arrive IL wait for Monday
18 Jul 09 = Package delivered (Track Package)
19 Jul 09 = Received Date on NOA1
22 Jul 09 = Check Cashed & NOA1 Issue
24 Jul 09 = Case was Touch
27 Jul 09 = Received NOA1 Hard Copy
02 Aug 09 = Touch again!!!
01 Oct 09 = Touch again!!! (Wish me luck) 
01 Oct 09 = Approval!!!! ( Case status update on USCIS website and txt to my Phone)
05 Oct 09 = Receive NOA2 hard copy
14 Oct 09 = Got Case Number
19 Oct 09 = Got AOS Fee Bill & DS3032 Form via E-mail / Pay for AOS & Send DS3032 back by e-mail
20 Oct 09 = Send DS3032 via Regular mail
21 Oct 09 = AOS Fee Bill show PAID!!!!
22 Oct 09 = Send I-864 by Fedex
26 Oct 09 = NVC got I-864 in system
28 Oct 09 = NVC got DS3032 in system
03 Nov 09 = IV Bill Generated on website wait for e-mail to pay
04 Nov 09 = Got an e-mail to pay for IV Bill / Pay Online
09 Nov 09 = IV Fee Bill show PAID!!!!&Send DS230 Packet
10 Nov 09 = DS 230 Arrive @ NVC
13 Nov 09 = DS230 in system 
24 Nov 09 = Log in failed!!!!!!
25 Nov 09 = Case was complete!!!
02 Dec 09 = Got e-mail about interview appointment
08 Jan 10 = Interview DateGot 221(G)
11 Jan 10 = Return Document to Embassy!!!
13 Jan 10 = Got Visa!!!
16 Jan 10 = Arrived LAX.

Tuesday, January 12, 2010

ตัวอย่างหนังสือยินยอมให้บุตรย้ายถิ่นฐานไปอยู่อเมริกา 2010 ของพี่หนู

ตัวอย่างหนังสือยินยอมให้บุตรย้ายถิ่นฐานไปอยู่อเมริกา 2010
ลูกๆพี่หนูได้วีซ่าแล้วค่ะ ทั้งนี้ หากมิได้ข้อมูลที่เพื่อนๆที่ได้ให้ข้อมูลทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์ ทุกอย่างจะไม่ราบรื่นอย่างนี้ จึงขอนำหนังสือตัวอย่างหนังสือยินยอมให้บุตรย้ายถิ่นฐานไปอยู่อเมริกา โดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น มาให้เพื่อนๆรุ่นหลังๆได้อ่านโดยหวังว่าจะได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย

อัน ว่าหนังสือยินยอมตัวนี้ สถานทูตต้องการนำมาเป็นเอกสารตัวจริงประกอบในการสัมภาษณืวีซ่า เคสอง กับ ซีอาร์ 2 ซึ่งก้คือวีซ่าที่นำลูกไปด้วยที่อเมริกานั่นเอง และเป็นกฎใหม่ ในปี 2010 ปริ๊นตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ไปให้สำนักงานเขตหรืออำเภอดูเลย จะได้ไม่ว่าเรา
คิดขึ้นมาเองนะจ๊ะ

http://bangkok.usembassy.gov/immigrant_ ... ation.html

นี้ ก่อนอื่นก็ต้องติดต่อบิดาของลูกเสียแต่เนิ่น ๆ ตามตัวอย่างนี้ และสาระสำคัญที่ห้ามตัดทอนก็คือ ยินยอมให้บัตรย้ายถิ่นฐานไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งต้องไปทำสำนักงานเขต หรือ อำเภอ ที่บิดา มีภูมิลำเนาอยู่ในปัจจุบัน พร้อมกันนั้น ก็ต้องแนบสำเนาบัตรประชาชน พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนา มาแสดงด้วย หากเป็นสำเนาบัตรข้าราชการ จำเป็นต้อง แนบสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมเซ็นต์รับรองสำเนามาเช่นกัน แต่หากว่า ไม่ต้องการไปทำ ก้ต้องนำ บิดาของลูกมาสัมภาษณ์พร้อมบัตรประชาชนมาที่สถานทูตในวันสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง ส่วนในกรณีที่หาพ่อเด็กไม่เจอ พ่อเด็กไม่เซ็นต์ให้ ก็ต้องไปขออำนาจศาลขอเป็นผู้ปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งไม่เข้าข่ายในกระทู้นี้ ต้องรบกวนไปอ่านในกระทู้ที่เพื่อนคนอื่นๆ โพสท์ไว้นะคะ อ้ออีกนิดนึง ถ้าเราไม่ได้ไปกับบิดาของลูก ต้องแนบสำเนาสูติบัตรลูกให้พ่อเด้กไปแสดงที่สำนักงานเขตหรืออำเภอด้วยนะคะ เค้าจะได้รู้ที่มาที่ไป

เมื่อได้หนังสือตัวนี้แล้ว ให้ถ่ายเอกสารส่งไปในแพ็คสามรวมกับฟอร์มตัวเอื่นๆ ส่วนตัวจริง ให้เอาไปแสดงในวันสัมภาษณ์ ขอแนะนำ ให้ทำสำเนาที่สำนักงานเขตหรืออำเภอไว้อย่างน้อย สามชุด เพราะต้องใช้ประกอบการยื่นปรับสถานะ พร้อมตัวแปล กับใช้เมื่อลูกเข้าโรงเรียนด้วย ส่วนตอนใชืยื่นสัมภาษณ์ที่ไทย ไม่ต้องแปลนะคะ
สำหรับเอกสารประกอบอื่นๆ หาอ่านได้ในวีซ่าคู่หมั้นเคสอง ที่หนูแนทตี้ทำลิ้งค์ไว้ได้นะคะ ใครที่มารับลูกไปอยู่ด้วยหลังจากตนเองไปอเมิรกาแล้ว ก้ต้องนำทะเบียนสมรสตัวจริง กับ กรีนการ์ด หรือ Advance Parole ไปแสดงที่สถานทูตด้วยนะคะ สำหรับใครที่มีบันทึกการหย่า และใบหย่า ต้องนำตัวจริงไปแสดงที่สถานทูตพร้อมด้วย รวมทั้ง ถ้าไม่ได้จดทะเบียนก็ต้องนำ ปค.14 ตัวจริงไปแสดงค่ะ ส่วนกรณีไม่เข้าพวกข้างต้น ก็ลองหาอ่านในกระทู้อื่นๆนะคะ
และนี่คือตัวอย่างข้างล่างค่ะ

ตราครุฑ
หนังสือให้ความยินยอม
เลขที่ .../2553 เขียนที่ สำนักงานเขต/ที่ว่าการอำเภอ.........
วันที่ ... เดือน ..... พ.ศ. 2553
ข้าพเจ้า (ชื่อ-นามสกุล) อายุ ..........ปี เลขบัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ เลขที่..................... อยู่บ้านเลขที่.............หมู่ที่ ........ ตำบล.........อำเภอ............จังหวัด...........เป็นบิดาของ เด็กชาย/หญิง ชื่อ นามสกุล อายุ ปี เลขบัตรประจำตัวประชาชน ................อยู่บ้านเลขที่ หมู่ที่ แขวง/ตำบล เขต/อำเภอ จังหวัด โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้ายินยอมให้ เด็กชาย/หญิง ...... ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ สหรัฐอเมริกาอย่างถาวร โดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น

......................บิดา (ลายเซ็นต์)
( )
ขอรับรองว่านาย................... ได้ลงนามต่อหน้าข้าพเจ้าจริง
ลงชื่อ................................ปลัดอำเภอ/นายอำเภอ
ประทับตราประจำตำแหน่งเป็นสำคัญ

Translation
Royal Emblem

……./2010 ……………. District
Date month , 2010
My name is ............. Thai citizen , Identification number ………….. ,residing at …….i Sub district ………. District …….. Province ……Thailand ,who is the father of Miss ………………….. identification number ………….. ,residing at ………….. Sub District ………….. District ......... Province Thailand . I consent for ………….. ……………. to emigrate to the U.S. permanently without any conditions.

Sign …………………. Father
This is to certify that Mr. …………………….. has signed true and correct
Signed
(Mr. …………………………..)
Position…………………….

Certified Correct Translation
(…………………)
Tel.

สุด ท้ายนี้ พี่หนูขอขอบคุณ หนูปุ๊ก หนูเดือน หนูแนท หนูโจ้ เจ้นัท และน้องคลี หรือชมพู่ แจ๊กกี้ และ น้องมิ้นท์ ที่ทำให้หลานๆได้วีซ่าโดยราบรื่น และเพื่อนๆทุกคนที่ให้กำลังใจพี่หนูมาโดยตลอด ขอให้เพื่อนคนอื่นที่จะนำลูกมาราบรื่นเช่นกัน ใครมีข้อสงสัยหากพี่หนุช่วยได้ ถามได้ยินดีรับใช้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงค่ะ