Wednesday, January 13, 2010

CR2-2010 ปุ๊ก(เอ๋ย) Jan08 รับ Jan13,10 (US citizen applied) 003

เอ้าเร่เข้ามาค่ะท่านผู้ชม ประสบการณ์ร้อน แบบว่ายังอุ่นๆเลย
เริ่มต้นที่วันนี้ตี4ครึ่ง ปลุกลิงให้ตื่นแต่งตัว หลอกมันว่าจะพาไปเที่ยวเดี๋ยวบ่ายๆกลับบ้าน
เธอก็จัดแจงแปลงกายเป็นสาวน้อยน่ารักในชุดสีชมพูทันที แม่มันก็เสื้อสีชมพู
วันนี้ใครไปสัมภาษณ์เห็นไอ้แม่ลูกคู่สีชมพูนั่นแหล่ะใช่เลย ฮ่ะๆ


6.30 น.ไปถึงหน้าประตูสถานฑูต ยืนรอคร้าบพี่น้อง เดี๋ยวนี้ทางเข้าไฮโซน่าดู
ประตูเป็นกระจก (แต่ก่อนสังกะสีดีๆนี่เอง ฮ่ะๆ) รอแถวค่ะ มีไลน์กั้นเรียบร้อยไม่ให้แซงกัน


6.45 น.โดยประมาณ น้องเสื้อม่วงอ่อนเดินออกมาตรวจแถว เช็ครายชื่อ เดินเข้าทีละ 3 คน
เอาของไปฝาก โทรศัพท์ อุปกรณ์อิเลกโทรนิค ฝากให้หมด พร้อมบัตรประจำตัวที่ไม่ใช่บัตรประชาชน


6.50 น. ทะลุเข้าด้านใน งานนี้ไม่ต้องเดินไกลอ้อมสระเหมือนเมื่อก่อน เค้าตัดทางเดินปรู๊ดเดียวถึง

6.55 น. ไปเหล่ดูเคาน์เตอร์ 5 ไม่มีเจ้าหน้าที่สักคน ลูกสาวอิฉันร้องจะเข้าห้องนำ เอ้า....ลากกันไป

7.10 น. หลังจากเสร็จกิจในห้องน้ำ มาเข้าแถวยื่นเอกสาร ออกมาเห็นคนต่อคิวเพียบ ไปต่อกะเค้าด้วย
เอกสารที่ยื่นมีแค่เอกสารความสัมพันธ์ เป็นรูปแบบรวมมิตรอัด 8x10 ใบเดียว(แต่หลายรูปรวมๆกัน)
ใบปค.14ที่ไปขอมาใหม่ (อันนี้แหล่ะปัญหาที่ทำให้เคือง เดี๋ยวเล่าให้ฟัง) ผลตรวจร่างกาย
เค้าขอกรีนการ์ดไปด้วย ก็เอาให้ไป แล้วก็พาสปอร์ตเอ๋ย เอกสารอื่นๆยื่นไปหมดแล้ว


7.30 น. ยื่นเอกสารเสร็จ นั่งรอ น้องเอ๋ยทำพิษ ปวดปุ๊บอีกแล้ว ลำบากแม่มันหล่ะทีนี้ พาเข้าห้องน้ำ

8.00 น. หลังจากปล้ำกันอยู่นาน คุณหญิงแหกปากอยากกลับบ้านซะงั้น ไม่เอาแล้ววีซ่า
เพราะว่าเธอปวดท้อง (ปุ๊บไม่ออก) จะกลับบ้านท่าเดียว ก้เลยต้องลากกันเข้าห้องน้ำอีกรอบ


ระหว่างนี้เจอพี่ใจดีคนนึง มาสัมภาษณ์วีซ่าทำงานและท่องเที่ยว เค้าบอกเข้าเลยค่ะ เดี๋ยวบอกเจ้าหน้าที่ให้
น่ารักที่สุด ไม่ได้ถามชื่อ แต่ขอบคุณมา ณ ทีนี้นะคะ แล้วก็แยกตัวพาเอ๋ยเข้าห้องน้ำ เฮ้อ.....กรรม


8.30 น. โดยประมาณ เจ้าหน้าที่เริ่มเรียกไปช่อง 13 แต่เราไม่ได้เรียก นั่งรอ

9.00 น. "เด็กหญิงอริศราหน้าแมว เคาน์เตอร์ 6 ค่ะ" ก็เดินไป ลากลิงไปด้วย

คุณแหม่มคนสวยก็ยื่นกระดาษมาให้ปุ๊กเซ็นต์ชื่อแทน ก็เขียนชื่อเอ๋ยแล้วก็ชื่อตัวเอง
หลังจากนั้นก็ให้ยกมือขวาสาบานว่าจะพูดความจริง จัดไปตอบเยสค่ะ

เริ่มคำถามแรก "คุณไปอยู่อเมริกามากี่ปี" อ้าว....ถามแม่ซะงั้นไม่ถามลูก
ตอบไป "เกือบปีค่ะ" ก็อยุ่แบบไปๆกลับๆอ่ะ ก็เกือบปี ไม่ครบดี

หลังจากนั้นคุณแหม่มไม่ถามอะไรเลย เริ่มร่ายยาวเรื่องใบปกครองบุตร
บอกว่าใบปค.14ที่เราขอมาใช้ไม่ได้ "ไม่รับจากDistrictนะคะ" ฮ่วย....เอาแล้วตรู งานเข้า
อิฉันด้วยวิญญาณลูกอีช่างเถียงเริ่มร่ายเลย "เขียนอีเมล์มาถาม เจ้าหน้าที่คุณก็ไม่ตอบ 2 อาทิตย์กว่า
ก็เลยก๊อปจากตัวอย่างของสถานฑูตไปขอจากอำเภอ ถ้าเอกสารนี้ใช้ไม่ได้ทำไมถึงเอาไปทำพาสปอร์ตได้หล่ะคะ"


คุณแหม่มคนสวยอึ้งไปพักนึง ไม่คิดว่านังนี่จะเถียง ช่างกล้า.....พูดไม่มีเว้นวรรคเลย
คุณแหม่มเลยบอก"ขออธิบายได้ไหม๊คะ" "เอกสารนี้ใช้ไม่ได้ ต้องให้พ่อเด็กมาเซ็นเท่านั้น"
ควันออกหูเลยทีนี้ หน้ามืด หูอื้อทันที "เป็น Single Mom ค่ะ ไม่ได้ติดต่อพ่อเด็กตั้งแต่ท้องได้ 5 เดือน
จนถึงตอนนี้ดูเอาค่ะ 3 ขวบกว่าแล้ว" วัดความสูงลุกสาวให้ดูด้วยว่าโตเป็นสาวแล้วนะยะ


คุณแหม่มอึ้งไปอีกรอบ แต่ยังยืนยัน "ต้องให้พ่อเด็กมาเซ็นค่ะ หรือไม่ต้องลงประกาศตามหาในหนังสือพิมพ์
แจ้งว่าเป็นบุคคลสูญหาย มีจดหมายพิสูจน์ว่าเราเคยตามหาจริง บลาๆๆๆ"
แม่ลิงเริ่มหูอื้อ อะไรจะขนาดนั้นฟระ ต้องตามหากันเลย เสียตังค์ประกาศหาพ่อมันอีก
ต้องเอาลูกตัวเองไปประจานในที่สาธารณะว่าหนูเป็นลูกไม่มีพ่อนะคะ แบบนี้ยอมบ่ได้
"ขออนุญาติคุยกับเจ้าหน้าที่คนไทยได้ไหม๊คะ" ได้ค่ะ คุณแหม่มจัดให้ 
ระหว่างนี้เธอยุกยิกอยู่ที่คอมพิวเตอร์ ปริ๊นซ์ใบ 221(G)ให้แล้ว แต่นังนี่ยังเถียงไม่เลิก ฮ่ะๆ


เจ้าหน้าที่คนไทยเดินมา พูดประโยคเดียวกันเด๊ะๆ จะพูดทำไมคะพี่ค๊า....น้องทราบแล้ว
ก็เลยบอกไปว่า"ดิฉันติดต่อทั้งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางแล้ว เค้าออกเอกสารนี้ให้ไม่ได้
(นังแม่ลิงควักอีเมล์ที่เขียนไปแจ้งสถานฑูตมาโชว์ว่าฉันแจ้งแล้วนะยะหล่อน)
แล้วก็เขียนมาถามอีก พวกคุณก็ไม่ตอบอีเมล์ ตอนนี้จะให้ไปตามหาพ่อเด็ก งั้นดิฉันขอถามหน่อย
ทำไมตอนยื่น K1 Visa ใบปค.14ตัวนั้นถึงใช้ได้ คุณไม่พอใจจะเอาแบบใหม่ดิฉันก็ไปขอให้
(ควักใบใหม่มาโชว์อีกรอบกลัวไม่เห็น) ตอนนี้จะให้ตามหาพ่อเด็กที่ไม่ได้ติดต่อกันเลย 4 ปี
แถมไม่ทราบว่าจะไปหาที่ไหน ไม่ทราบว่าตกลงคุณจะเอาเอกสารอะไรกันแน่คะ"


พี่คนสวยอึ้งกิมกี่ ไม่คิดว่าของเค้าแรงจริงๆขนาดนี้ (น่าสงสาร ขอโทษนะคะพี่ หนูเดือดไปหน่อย)
"คุณแหม่มจะเอาใบยินยอมจากพ่อเด็กค่ะ ถ้าคุณติดต่อพ่อเด็กไม่ได้ต้องมีหลักฐาน
พวกประกาศหนังสือพิมพ์และจดหมายมาแสดงว่าเคยตามหาจริง หรือหนังสือแจ้งความค่ะ"
โอ้แม่เจ้า......ยังยืนยันกระต่ายขาเดียวเหนียวแน่นมาก แถมไม่ช่วยอธิบายให้คุณแหม่มเข้าใจอีกต่างหาก
(ก็ไม่ได้ว่าหรอกนะ แต่แหม....ใจดำกะคนไทยด้วยกันไปหน่อยรึเปล่าคะพี่)


แล้วคุณแหม่มก็ยื่นตัวอย่างให้ดู พร้อมกับหนังสือมรณะ 221(G) แล้วชีก็เดินจากไปแบบไร้เยื่อไย
(คนใจร้าย ไม่อธิบายยังเดินหนีอีก) พี่คนสวยยังย้ำ "เอาเอกสารยื่นเพิ่มได้จันทร์กับพุธบ่ายโมงนะคะ"

จัดการขอบคุณค่ะแล้วเดินสะบัดตูดออกไปทันทีด้วยความเคือง (ขอโทษที่ไม่ได้ทักใครเลยนะคะ ยังเคืองอยู่)
เดินออกมาหน้ามืด หูอื้อ ตาลาย น้ำตาจะไหลแบบบอกไม่ถูก นี่ถ้ามันบกพร่องประเภทอื่นจะไม่เครียดเลย
แต่นี่เอกสารก็ครบทุกอย่าง ภาษีก็ครบ ความสัมพันธ์เยี่ยม ทุกอย่างดีหมด
แต่ผิดอย่างเดียว ผิดที่เป็น Single Mom ที่หยิ่งไปหน่อย ไม่ติดต่อพ่อเด็ก
ไม่รู้ว่าพ่อเด็กมันหายหัวไปไหน ไม่รู้จะไปตามหามันได้ที่ไหน เลยทำให้ต้องได้ 221(G) ในวันนี้


ออกมาถึงประตูหน้า หมดเวลาเสียใจ จัดการดำเนินการทันที โทรจิกๆๆๆๆๆๆ กัดๆๆๆๆๆๆๆ
ตามหามันไปหมดตั้งแต่ผู้กำกับยันรองสวป. โรงพักทุกที่ๆพ่อมันทำงานไม่ได้อยู่เป็นสุขเลยทีเดียว
นังนี่โทรกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ วันนี้ค่าโทรพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบประวัติการณ์ โทรจิกกัด อ้อนออด อ้อนวอน
ขู่เข็ญ บังคับ กว่าจะได้มาซึ่งข้อมูลว่าตอนนี้พ่อเธออยู่ไหน 
(เลือดตาแทบกระเด็น ด้วยความโกรธบวกความเครียด)

จัดการโทรจิกทันที ได้ทราบว่าพ่อเธอจะเข้าเวร สวป.วันนี้ 4 โมงเย็น (ตอนนั้น 10.30น.)
ไม่ทันๆ ไม่มีทางทัน จัดการนั่งรถไปสถานีตำรวจต้นเหตุทันที (ในสายยังออดอ้อนรองผู้กำกับต่อไป)
พอไปถึงก้เล่นวิทยายุทธขั้นสูง จนได้เจอตัวพ่อเธอ โอ้แม่เจ้า.....วันนรกมาถึงแล้ว
อย่ามาทวงลูกฉันนะ อย่าด่าฉันด้วย (แอบภาวนาในใจ) เริ่มเจรจาทันทีเรื่องลายเซ็นต์

ผิดคาดแหะ พี่แกร่วมมือแต่โดยดี แถมมีการบอกว่าจะคุยกับผู้ใหญ่ให้ (แหม....ร่วมมือเกินเหตุ)
ก็เลยจัดการลากกันไป ตอนแรกว่าจะให้ไปเจอที่สถานฑูต เข้าไปเซ็นต่อหน้าเจ้าหน้าที่กงสุล
แต่เค้าดันไม่ให้เข้า นังแม่ลิงก็เลยมีอันต้องนั่งรถกลับมาอำเภอใกล้โรงพัก หัวก็คิดแผนสำรองทันที
เลยจัดการไปถามอำเภอ เซ็นต่อหน้าให้เจ้าหน้าที่รับรองได้ไหม๊ เจ้าหน้าที่บอกต้องมีถิ่นฐานที่นี่เท่านั้น
แอบเซ็ง.....อีกรอบ อะไรกันหนักหนาเนี่ย พ่อเธอมาจากนครสวรรค์ 
นี่ฉันต้องนั่งรถไปเหรอ จะทันเหรอฟระเนี่ย เลยโทรไปหาพ่อมัน(ด้วยความจำเป็น)
ถามว่าทะเบียบ้านอยู่ที่ไหน พี่แกบอกย้ายมาที่อำเภอนี้แล้ว
กรี๊ด......ดีใจปานถูกหวยรางวัลที่ 1 รีบบอกให้มาเซ็นที่อำเภอทันที 


หลังจากดำเนินการเสร็จ ได้เอกสารมาครอบครอง แอบนึกในใจ 
นี่เห็นจะเป็นอานิสงค์จากการสวดมนต์แผ่เมตตาที่ปุ๊กและเอ๋ยร่วมกันทำ(แบบลุ่มๆดอนๆ)ทุกวัน
ทำให้อุปสรรคที่ควรจะเยอะแยะกลับง่ายกว่าที่คิด วันเดียวได้เอกสารที่ต้องการมาครอง
วันจันทร์นี้พร้อมรบ เอ๊ย....ไม่ใช่ พร้อมส่งเอกสารเพิ่ม แล้วดูสิคราวนี้พี่ Em จะมาไม้ไหนอีก
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะพี่ๆน้องๆ แม่ลิงและลุกลิงยังต้องผจญภัยอีกค่ะ


-----------------------------------------------------

เข้ามาอัพเดตการยื่นเอกสารเพิ่ม วันนี้เดินทางไปถึงสถานฑูตเวลา 12.00 น.
ก็กะว่ามันติดเที่ยงพอดีเลย เราก็เลยนิ่งนอนใจไปเดินเล่น กลับมาอีกที 12.30 น.
เจอพี่ๆเพื่อนๆร่วมชะตากรรมอีกหลายคน (ลุงเติ้ลก็ไปกะเค้าด้วย)
พากันเดินไปเข้าแถว รับบัตรคิว แล้วก็รอน้องเสื้อม่วงมาเปิดประตูค่ะ
พอเค้าให้เดินผ่านเข้ามาคิวที่ได้ก็เรียกส่งเอกสารที่ช่อง 4 พอดีเลย ก็ลากลิงเข้าไป 
เอาเอกสารส่งเจ้าหน้าที่ (มีการแอบงงเล็กน้อย เพราะพ่อเธอเปลี่ยนชื่อนามสกุลและย้ายบ้าน)
แล้วก็ไปนั่งรอชะตากรรมตัวเอง ขอบอกว่าไม่มั่นใจเลยว่าคุณแหม่มจะเฮี้ยนอยากได้เอกสารอื่นๆอีกรึเปล่า
ก็นั่งรอไปปวดกบาลไป เพราะเอ๋ยมันซนมั่กๆ (ไม่เชื่อไปถามลุงเติ้ลได้ ซนจนปวดหัวเลยอ่ะ)
ตั้งแต่เวลา 13.00 น. จนถึงเวลาบ่ายสามกว่าๆก็มีเจ้าหน้าที่สาว(อีกคน)มาเรียกชื่อน้องเอ๋ย
แล้วเราก็เดินเข้าไปเอาใบนัดรับวีซ่า ไม่มีการสัมภาษณ์เพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น
แอบสงสัยทำไมคุณแหม่มเรียกคนอื่นสัมภาษณ์ไม่เรียกเรา เอ๊ะ.....หรือว่ากลัวเรากัด ฮ่ะๆ
แต่ก็ดีแล้ว ไม่งั้นถ้าเธอเรียกเดี๋ยวเรื่องยาว เพราะตั้งใจว่าจะถามเลยว่าทำไมขอเอกสารขัดแย้งกันเอง
(ยังแค้นฝังหุ่นไม่หายนะเนี่ยเรา นิสัยไม่ดีมากๆ ฮ่ะๆ) แต่ดันไม่เรียกก็เลยอดไป
แต่ยังไงก็ดีใจไม่ต้องเลื่อนตั๋วแล้ว ได้เดินทางตามกำหนดค่ะวันที่ 16 Jan 10
สาวๆซานดิเอโก้และใกล้เคียงเตรียมตัวปาร์ตี้รับลูกลิงนะคะ เดี๋ยวสถานที่จะแจ้งอีกทีค่ะ

สุดท้ายนี้ขอบคุณน้องแอน , พี่ติ๊ก........ฝ่ายประสบการณ์และเอกสาร ขอบคุณมากค่า
พี่กุ้ง......ตัวอย่างของเจ๊ด้วย ไม่นึกว่าจะได้ใช้ สุดท้ายก็ได้ไปขอจริงๆ ขอบคุณค่า
เจ๊นัท , อ้อม , ปุ้ม , หมู่เฮาชาวซานดิเอโก้.......กำลังใจหนาแน่นปึ๊กๆ ขอบคุณค่า
พี่ต้า , ลุงเติ้ล......เพื่อนร่วมทางที่สู้ไม่มีถอย เราอยู่ข้างกันเสมอ สู้ๆนะ
และกำลังใจสำคัญจากเพื่อนๆพี่ๆในบ้านยูเอสทุกคน ขอบคุณมากมายอีกครั้งค่ะ
ไม่มีบ้านหลังนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปปรับทุกข์กับใคร เพราะว่าเวลาเครียดก็ได้พวกเรานี่แหล่ะช่วยเหลือ

สุดท้ายนี้ขอปิดประสบการณ์กรีนการ์ดของเอ๋ยแต่เพียงเท่านี้ค่ะ
แต่สำหรับใครที่อยากทำเรื่องแบบนี้เหมือนกันปุ๊กยินดีรับใช้นะคะ
หน้าไมค์หลังไมค์ได้หมด ยินดีรับใช้ตลอด 24 ชม.ค่ะ
ร๊าก......ทุกคนเหมือนเดิมค่า

No comments: